ไม้ที่หดหายไป
อัพเดทล่าสุด: 21 ก.พ. 2025
131 ผู้เข้าชม
ทำไมขนาดไม้ที่ได้รับไม่ตรงกับที่ต้องการ?
หลายคนอาจเคยสงสัยว่า เราสั่งไม้ในขนาดที่ต้องการ แต่ทำไมขนาดที่ได้กลับไม่ตรงกับที่ระบุไว้? เรื่องนี้มีที่มาจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมไม้ในอดีตและปัจจุบัน
อดีต: การเลื่อยไม้แบบเผื่อขนาด
ในอดีต ทรัพยากรป่าไม้มีจำนวนมาก ไม้มีราคาถูก และโรงเลื่อยมักเลื่อยไม้ให้ ใหญ่กว่าขนาดที่สั่ง เพื่อให้ลูกค้านำไม้ไปใช้งานได้ ตามต้องการ เช่น หากสั่งไม้ขนาด 2 × 6 ทางโรงเลื่อยจะเลื่อยเผื่ อขนาดให้ด้านละประมาณ 6 มม. เมื่อนำไม้มาไสปรับแต่งแล้ว ขนาดสุดท้ายยังคงเป็น 2 × 6 เต็ม
ปัจจุบัน: การเลื่อยไม้แบบประหยัดที่สุด
ปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้ลดลง การเลื่อยไม้ในประเทศมีน้อยลง และราคาไม้สูงขึ้นมาก ทำให้ต้องนำเข้าไม้แปรรูปจากต่างประเทศ ซึ่งโรงเลื่อยของต่างประเทศจะเลื่อยไม้ให้พอดีกั บขนาดที่กำหนด โดยไม่เผื่อขนาดเหมือนในอดีต
ดังนั้น ไม้ที่เราสั่งซื้อในปัจจุบันจึ งมักเป็นไม้ที่ยังไม่ผ่ านการไสปรับขนาด และเมื่อไสแล้ว ขนาดจะเล็กลงกว่าที่ระบุไว้ ตัวอย่างเช่น:
สั่งไม้ขนาด 2 × 6 (50.8 มม. × 152.4 มม.)
เมื่อนำมาไสแล้ว ขนาดจริงที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ 40-45 มม. × 140 มม.
หากไม้มีการอบแห้งเพื่อลดความชื้ น ขนาดก็จะยิ่งหดตัวลงอีก
หากใช้ในงานที่ต้องขัดผิว เช่น ประตู พื้น หรือเฟอร์นิเจอร์ ขนาดก็จะเล็กลงกว่าเดิม
ข้อแนะนำในการเลือกขนาดไม้
หากต้องการไม้ที่มีขนาดตรงกั บแบบที่ออกแบบไว้ ควรเลือกไม้ที่ใหญ่กว่าขนาดที่ ต้องการอย่างน้อย 1 นิ้ว เพื่อเผื่อการไสปรั บขนาดและการหดตัวของไม้
สรุป
การที่เราได้รับไม้ขนาดไม่ตรงกั บที่สั่ง เป็นเพราะกระบวนการเลื่อยไม้ ในปัจจุบันที่เน้นการใช้ไม้ให้ คุ้มค่ามากที่สุด ไม่ใช่เพราะความผิ ดพลาดของโรงเลื่อย ดังนั้น หากเข้าใจหลักการนี้ ก็จะสามารถเลือกใช้ไม้ได้อย่ างเหมาะสม
ในบทความถัดไป เราจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกั บขนาดไม้ที่โรงเลื่อยเลื่ อยออกมาเป็นมาตรฐานครับ!
หลายคนอาจเคยสงสัยว่า เราสั่งไม้ในขนาดที่ต้องการ แต่ทำไมขนาดที่ได้กลับไม่ตรงกับที่ระบุไว้? เรื่องนี้มีที่มาจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมไม้ในอดีตและปัจจุบัน
อดีต: การเลื่อยไม้แบบเผื่อขนาด
ในอดีต ทรัพยากรป่าไม้มีจำนวนมาก ไม้มีราคาถูก และโรงเลื่อยมักเลื่อยไม้ให้ ใหญ่กว่าขนาดที่สั่ง เพื่อให้ลูกค้านำไม้ไปใช้งานได้ ตามต้องการ เช่น หากสั่งไม้ขนาด 2 × 6 ทางโรงเลื่อยจะเลื่อยเผื่ อขนาดให้ด้านละประมาณ 6 มม. เมื่อนำไม้มาไสปรับแต่งแล้ว ขนาดสุดท้ายยังคงเป็น 2 × 6 เต็ม
ปัจจุบัน: การเลื่อยไม้แบบประหยัดที่สุด
ปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้ลดลง การเลื่อยไม้ในประเทศมีน้อยลง และราคาไม้สูงขึ้นมาก ทำให้ต้องนำเข้าไม้แปรรูปจากต่างประเทศ ซึ่งโรงเลื่อยของต่างประเทศจะเลื่อยไม้ให้พอดีกั บขนาดที่กำหนด โดยไม่เผื่อขนาดเหมือนในอดีต
ดังนั้น ไม้ที่เราสั่งซื้อในปัจจุบันจึ งมักเป็นไม้ที่ยังไม่ผ่ านการไสปรับขนาด และเมื่อไสแล้ว ขนาดจะเล็กลงกว่าที่ระบุไว้ ตัวอย่างเช่น:
สั่งไม้ขนาด 2 × 6 (50.8 มม. × 152.4 มม.)
เมื่อนำมาไสแล้ว ขนาดจริงที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ 40-45 มม. × 140 มม.
หากไม้มีการอบแห้งเพื่อลดความชื้ น ขนาดก็จะยิ่งหดตัวลงอีก
หากใช้ในงานที่ต้องขัดผิว เช่น ประตู พื้น หรือเฟอร์นิเจอร์ ขนาดก็จะเล็กลงกว่าเดิม
ข้อแนะนำในการเลือกขนาดไม้
หากต้องการไม้ที่มีขนาดตรงกั บแบบที่ออกแบบไว้ ควรเลือกไม้ที่ใหญ่กว่าขนาดที่ ต้องการอย่างน้อย 1 นิ้ว เพื่อเผื่อการไสปรั บขนาดและการหดตัวของไม้
สรุป
การที่เราได้รับไม้ขนาดไม่ตรงกั บที่สั่ง เป็นเพราะกระบวนการเลื่อยไม้ ในปัจจุบันที่เน้นการใช้ไม้ให้ คุ้มค่ามากที่สุด ไม่ใช่เพราะความผิ ดพลาดของโรงเลื่อย ดังนั้น หากเข้าใจหลักการนี้ ก็จะสามารถเลือกใช้ไม้ได้อย่ างเหมาะสม
ในบทความถัดไป เราจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกั บขนาดไม้ที่โรงเลื่อยเลื่ อยออกมาเป็นมาตรฐานครับ!
